วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

Family - Manager Online - เติบโตแบบไม่เร่งรัดที่ อนุบาลวัชรพล www.manager.co.th

หากจะหาโรงเรียนอนุบาลดี ๆ ราคาไม่แพงให้ลูกรักสักแห่ง บนถ.รามอินทรา ซ.วัชรพล เขตบางเขน มีโรงเรียนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่น่าจะเป็นตัวเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะครอบครัวที่ไม่ได้เร่งรัดลูกน้อยจนเกินไป เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติแห่งวัยที่เน้นให้เด็กเติบ โตอย่างเป็นธรรมชาติ
      
       โรงเรียนที่ว่านี้มีชื่อว่า "อนุบาลวัชรพล" หรือ เลิศอุบลอนุบาล (ชื่อ เดิม) ซึ่งเปิดมานานกว่า 10 ปีแล้ว ก่อตั้งขึ้นมาด้วยใจ ไม่ใช่ธุรกิจแสวงหากำไร ดังนั้น ค่าเทอมจึงไม่แพงอย่างที่คิด (เทอมต้น 1,937 บาท เทอมปลาย 1,937 บาท)
      
       โดย นภาปิย สิริกรกาญจนา หรือ ครูอ้อย ผู้ รับใบอนุญาติ และครูใหญ่ของโรงเรียน บอกเล่าให้ทีมงาน Life & Family ฟังว่า เด็กยุคใหม่ถูกเร่งรัดให้เรียนเร็วเกินไป ทำให้ธรรมชาติแห่งวัยหายไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางโรงเรียนเน้นให้เด็กเรียน และเล่นไปพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญยังยึดหลักความพอเพียง และเน้นวิถีความเป็นไทยอีกด้วย
      
       "เรา ไม่ได้เน้นทฤษฎีใดทฤษฏีหนึ่งตายตัว แต่เราจะเอาแต่ละทฤษฏีมาประยุกต์ เช่น การเรียนการสอนแบบโครงการ Project Approach เราก็นำหลักการให้เด็กเรียนรู้เรื่องง่าย ๆ จากสิ่งใกล้ตัว เช่น ปลูกต้นไม้ หรือทำขนมไทย เด็กอยากรู้วิธีทำครูก็เตรียมอุปกรณ์ให้ลงมือทำจริง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เด็กกล้าคิด กล้าแสดงออก" ครูใหญ่เล่าให้เห็นภาพถึงตัวอย่างกิจกรรมที่เด่นชัดด้านกระบวนการเรียนรู้
      
       ดังนั้น รูปแบบการเรียนการสอนในแต่ละชั่วโมง ครูใหญ่ท่านนี้เล่าว่า จะจัดแบ่งเนื้อหาสาระออกเป็น 6 กิจกรรมบนพื้นฐานของหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ โดยมุ่งเน้นพัฒนา ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา โดยกิจกรรมในแต่ละคาบนั้น จะเรียนแบบประสบการณ์ตรง จะไม่แยกวิชากับชีวิตออกจากกัน มีคุณครูคอยสร้างกิจกรรม และกระตุ้นเด็ก ๆ ให้รู้จักคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนส่งเสริมเด็กบนพื้นฐานของความเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือซึ่งกันเเละกัน ตลอดเคารพความเป็นเหตุเเละผล
      
       "ที่ นี่เราให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในการอยู่ร่วมกันมาก ดังนั้น เด็กของเราจะไม่ค่อยตีกัน อาจจะมีบ้างในช่วงแรก ๆ ที่เข้ามาใหม่ แต่หลังจากนั้น เราจะสอนให้เด็กรู้จักดูแล และช่วยเหลือกัน พี่ช่วยน้อง น้องช่วยพี่ มีอะไรเราช่วยเหลือกัน"
      
       "นอก จากนี้โรงเรียนของเรา ยังเป็นโรงเรียนการศึกษาเเนวร่วมสำหรับเด็กพิเศษ ดังนั้นเด็กปกติจะถูกหล่อหลอมตั้งแต่ต้นเลยว่า เราในฐานะเพื่อน เรื่องใดช่วยเหลือเพื่อนได้ เราควรช่วยกัน ซึ่งเราเน้นในเรื่องนี้มาก เพราะเด็กจะต้องเติบโตไปอยู่ในสังคม ซึ่งต้องมีพื้นฐานของเรื่องนี้อยู่ด้วย" ครูใหญ่เผย
      
       สำหรับการรับเด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมนั้น ครูใหญ่กล่าวเสริมว่า เปิดรับเด็กพิเศษทุกประเภท ยกเว้นเด็กที่มีปัญหาทางการมองเห็น เพราะโรงเรียนไม่มีตำรา และครูที่สอนโดยใช้อักษรเบรลล์ได้ โดยเด็กที่เรียนรวมแล้วมีปัญหา เช่น เรียนช้า หรือเรียนตามเพื่อนไม่ทัน โรงเรียนจะมีครูศึกษาเด็กพิเศษ 1 คนคอยเป็นครูพี่เลี้ยง อย่างกรณีเด็กรายหนึ่งมีความบกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งได้ยินเเค่ 30 เดซิเบล แต่ครูก็สามารถฝึกพูด และสามารถเรียนตามเพื่อนได้ทัน
      
       ส่วนวิธีการสอนเด็กของครูที่นี่นั้น ครูใหญ่ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่า จะไม่มีการออกคำสั่งกับเด็ก แต่ครูจะเป็นที่ปรึกษา และคอยชี้แนะแนวทางให้เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีการออกคำว่า "อย่าทำ" หรือ "ต้องทำ" เพราะนั่นเท่ากับว่าเป็นการปิดกั้นการเรียนรู้ และความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก แต่เราจะเน้นให้เด็กเรียนและเล่นอย่างสนุก
      
       "เด็ก ของเราทุกคนเรียนอย่างสนุก อย่างวิชาภาษาไทย เราได้นำเทคนิคการเล่านิทานด้วยการนำตัวพยัญชนะมาเป็นตัวละครในเรื่อง โดยสอดแทรกสิ่งที่จะทำให้เด็กจดจำลักษณะของพยัญชนะแต่ละตัวไว้ในนิทาน ทำให้เด็กสนุก และจำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งท่องจำก.เอ๋ยก.ไก่เหมือนแต่ก่อน" ครูใหญ่เล่าถึงวิธีการสอนเด็ก ๆ ให้สนุก และเข้าใจง่าย
      
       หลักสูตร "มินิอิงลิชโปรแกรม"
      
       ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยโลกเปิดกว้างมากขึ้น ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่ที่จะต้องมีทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียนที่ดีพอสมควร ความสำคัญนี้ทางโรงเรียนจึงส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษด้วยหลักสูตรมินิอิงลิ ชโปรแกรม เพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในกิจกรรมประจำวันให้กับเด็กทุกคน
      
       "เรา มีครูชาวต่างชาติจากประเทศฟิลิปปินส์อยู่กับเด็กเกือบทั้งวัน เพื่อที่ลูก ๆ ของเราจะได้สัมผัส และคุ้นชินกับการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น มีการร้องเพลง เล่นเกม พูดคุย แต่เราก็ไม่ได้ลืมความเป็นไทยนะ เรายังเน้นเรื่องมารยาทไทย สอดแทรกเข้าไปด้วย พูดง่าย ๆ คือ เด็กของเราเติบโตแบบไทย แต่มีหัวคิดแบบฝรั่ง นั่นก็คือ กล้าคิด กล้าพูด กล้าแสดงออก" ครูใหญ่เผยถึงอัตลักษณ์ของเด็กแบบฉบับอนุบาลวัชรพล
      
       สำหรับสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ถึงแม้จะมีพื้นที่ไม่มากนัก เป็นอาคารชั้นเดียว มีสนามเด็กเล่น และลานจอดรถ แต่ก็ร่มรื่น สงบเงียบ ส่วนห้องเรียนแต่ละห้องนั้นมีเครื่องปรับอากาศทุกห้อง มีห้องสมุด ห้องนาฎศิลป์ และโรงอาหารที่สะอาด และเน้นอาหารแบบไทย ๆ เช่น ต้มจืดมะรุม และน้ำสมุนไพรไทย เช่น น้ำมะรุม น้ำตะไคร้ เป็นต้น
      
       นับ เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนตัวเลือกหนึ่งสำหรับครอบครัวที่ไม่เร่งรัด แต่เน้นการเติบโตตามวัยได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีเด็กทั้งหมด 13 คน และครูอีก 4 คน เปิดรับเด็กตั้งแต่อายุระหว่าง 1 ขวบครึ่ง - 6 ขวบปี สอบถามเพิ่มเติมโทร. 02-519-8858 หรือเข้าไปดูข้อมูลโรงเรียน และระเบียบการรับสมัครได้ที่เฟสบุ๊ก www.facebook.com/anuban.watcharapol




http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000118235